Last updated: 23 พ.ย. 2566 | 1322 จำนวนผู้เข้าชม |
กระเป๋าเดินทางใบเก่าเป็นไอเท็มที่หลายคนมักเก็บไว้เพราะคิดว่ายังใช้งานได้อยู่ แต่ด้วยสภาพที่เก่า สีซีดจาง รอยขีดข่วนต่าง ๆ จึงทำให้ดูไม่สวยงามเหมือนเดิม หลายคนจึงเลือกที่จะทิ้งไป แต่หากใครไม่อยากทิ้งไปเสียเปล่า ๆ วันนี้ Baggage Luggage มีวิธีชุบกระเป๋าเดินทางใบเก่าให้ดูดีขึ้นทันตามาฝากกัน
ไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกล กระเป๋าเดินทางก็มักจะมีสิ่งสกปรกติดมาอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง รอยเปื้อน หรือคราบต่าง ๆ หากไม่ทำความสะอาดให้ดี ก็อาจทำให้กระเป๋าดูเก่าและเสียหายได้ ดังนั้น จึงควรทำความสะอาดกระเป๋าเดินทางเป็นประจำ เพื่อรักษาสภาพให้ดูใหม่อยู่เสมอ ซึ่งการทำความสะอาดกระเป๋าเดินทางสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง โดยต้องเตรียมอุปกรณ์ดังต่อไปนี้
1.ผ้า ผ้าที่ใช้ทำความสะอาดกระเป๋าเดินทางควรเป็นผ้านุ่ม ไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วน สามารถใช้ผ้าขนหนู ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือผ้าเช็ดกระจกก็ได้ โดยผ้านั้นสามารถใช้เช็ดทำความสะอาดคราบสกปรกทั่วไป หรือถ้าเป็นคราบฝุ่นสามารถใช้ผ้าแห้งเช็ดออกได้ แต่หากเป็นคราบสกปรกหรือคราบฝังแน่น สามารถใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ หรือน้ำสบู่อ่อน ๆ เช็ดออกได้
2.น้ำยาทำความสะอาด ควรพิจารณาจากประเภทของกระเป๋าเดินทางและลักษณะของคราบสกปรกที่ต้องการทำความสะอาด โดยควรอ่านฉลากของน้ำยาทำความสะอาดอย่างละเอียดก่อนใช้ เพื่อความปลอดภัยและไม่ให้น้ำยาทำความสะอาดกัดกร่อนเนื้อวัสดุของกระเป๋าเดินทาง เช่น
3.แปรงขนนุ่ม ใช้ทำความสะอาดซอกมุมหรือบริเวณที่เข้าถึงยาก เนื่องจากขนแปรงที่อ่อนนุ่มจะไม่ทำให้กระเป๋าเดินทางเป็นรอยหรือเสียหาย สามารถใช้ทำความสะอาดสิ่งสกปรกและฝุ่นละอองที่เกาะติดอยู่ตามซอกมุมหรือบริเวณที่เข้าถึงยากได้เป็นอย่างดี โดยควรปัดไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้สิ่งสกปรกและฝุ่นละอองหลุดออกได้ง่ายขึ้น ข้อควรระวังคือไม่ควรใช้แปรงที่มีขนแข็ง เพราะอาจทำให้กระเป๋าเดินทางเป็นรอยได้
1.ทำความสะอาดภายนอกกระเป๋าเดินทาง
ในขั้นแรกให้เริ่มจากการทำความสะอาดภายนอกของกระเป๋าเดินทางก่อน โดยใช้ผ้าสะอาดเช็ดฝุ่นละอองออกให้ครบทุกส่วนไม่ว่าจะเป็น ส่วนล้อ ด้ามจับ คันชัก เก็บรายละเอียดให้หมดจด จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดเช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง ในขั้นตอนนี้ให้ระวังอย่าให้น้ำหรือน้ำยาทำความสะอาดเข้าภายในกระเป๋าเดินทางเด็ดขาด เพราะด้วยฤทธิ์ต่าง ๆ อาจจะทำให้กระเป๋าเกิดความหายได้ ทั้งนี้หากมีคราบฝังแน่นหรือรอยขีดข่วน สามารถขัดด้วยแปรงสีฟันขนอ่อน ๆ ชุบน้ำยาทำความสะอาด หากคราบดังกล่าวยังไม่เลือนหายไป ให้ใช้ครีมขจัดคราบอเนกประสงค์ ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป
2.ทำความสะอาดภายในกระเป๋าเดินทาง
พอข้างนอกของกระเป๋าเดินทางดูดีจนพอใจคุณแล้ว ถึงคิวทำความสะอาดข้างในของกระเป๋ากันบ้าง หากกระเป๋าเดินทางของคุณมีชิ้นส่วนที่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ ให้ถอดชิ้นส่วนเหล่านั้นออกมาทำความสะอาดแยกต่างหาก ซึ่งใช้วิธีเดียวกันกับภายนอกคือให้ใช้แปรงชุบน้ำยาเบา ๆ แล้วซักทำความสะอาด จากนั้นผึ่งให้แห้งสนิทก่อนนำกลับใส่กระเป๋า
เมื่อคุณทำความสะอาดกระเป๋าเดินทางให้ดูดีขึ้นแล้ว ขั้นต่อไปน่าจะเป็นอะไรที่ท้าทายมากกว่า เพราะสิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับในการดูแลกระเป๋าเดินทางให้ดูดีตลอดเวลาแม้ในยามที่คุณไม่ได้ใช้ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นในขั้นตอนของการทำความสะอาดที่มีเคล็ดลับบางอย่างที่จะทำให้กระเป๋าเดินทางสะอาดขึ้น และขั้นตอนการเก็บรักษาที่จะช่วยให้ยืดระยะเวลาของกระเป๋าเดินทางให้อยู่กับคุณได้นานขึ้นอีก
• ลบรอยขีดข่วนบนกระเป๋าเดินทางให้เลือนหาย
สำหรับกระเป๋าเดินทางที่มีรอยถลอก หรือรอยขีดข่วน วิธีที่จะทำให้กระเป๋ากลับมาดูดีอีกครั้ง ในขั้นตอนแรกจำเป็นมาก ๆ ที่คุณต้องดูวัสดุของกระเป๋าของว่าผลิตมาจากอะไร เพราะจะได้ทำความสะอาดได้อย่างถูกวิธี โดยหากเป็นกระเป๋าเดินทางอะลูมิเนียมให้ทำความสะอาดตามวิธีที่กล่าวไปข้างต้น หากมีรอยที่เหวอะ หรือกว้างเกินไป อาจจะต้องนำไปซ่อมแซมที่ร้านเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญแก้ไขได้ตรงจุด และหากเป็นกระเป๋าเดินทางที่มีวัสดุอื่น ๆ เช่นผลิตจากหนัง ผ้า หรือพลาสติก ในขั้นแรกให้ทำความสะอาดก่อนเลย หลังจากนั้นให้ดูว่ารอยได้หายไปไหม หากยังไม่หาย อาจจะต้องใช้วิธีเดียวกันกับกระเป๋าเดินทางอะลูมิเนียม ก็คือต้องส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจดูก่อนเลย
• ขจัดรอยด่างบนกระเป๋าเดินทาง
เช่นเดียวกันกับการลบรอยขีดข่วน เพราะจะขึ้นอยู่กับประเภทของวัสดุกระเป๋าเดินทาง และชนิดของรอยด่างบนกระเป๋าเดินทาง แต่โดยทั่วไปแล้ว ไม่ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดที่รุนแรงในการทำความสะอาดกระเป๋า เพราะอาจทำให้น้ำยาที่เคลือบผิวกระเป๋าเดินทางหลุดออกหรือสีมีรอยด่างได้ ใช้แค่น้ำยาอ่อน ๆ และเช็ดออกให้แห้งก็เกินพอแล้ว
ทั้งนี้หากรอยด่างนั้นเกิดขึ้นมาจากคราบน้ำมันให้ใช้เบกกิ้งโซดาโรยลงบนคราบน้ำมันทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยด่างตามมา เช่นเดียวกันกับรอยคราบสีที่ต้องใช้น้ำยาล้างเล็บ หรือแอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาด หรือจะเป็นรอยคราบเชื้อรา เช่น คราบดำ ๆ เหมือนยาง คราบรอยสติกเกอร์ เหล่านี้สามารถใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำในอัตราส่วน 1 ต่อ 5 เช็ดทำความสะอาดได้เลย รอบด่างก็จะไม่เกิดกับกระเป๋าเดินทางคุณแน่นอน
• ดับกลิ่นให้สิ้นซาก
หนึ่งในเหตุผลที่เหล่านักเดินทางไม่อยากหยิบกระเป๋าเดินทางใบเก่า เพราะกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่อยากจะทิ้งกระเป๋าทุกครั้งที่กลิ่นแตะจมูก แต่คุณไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อกระเป๋าเดินทางใบใหม่แน่นอน หากคุณรู้วิธีดับกลิ่น ต่อไปนี้
ซึ่งในขั้นแรกให้ใช้เบกกิ้งโซดาดูดซับกลิ่น โดยการนำเบกกิ้งโซดาใส่ในถุงผ้า จากนั้นปิดปากถุงให้สนิท แล้วใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทางทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน เบกกิ้งโซดาจะช่วยดูดซับกลิ่นเหม็นโดยอัตโนมัติ หากยังไม่ได้ผลให้ใช้น้ำส้มสายชู ผสมไปกับน้ำอุ่นในอัตราส่วน 1:1 เทส่วนผสมลงในขวดสเปรย์ แล้วฉีดพ่นให้ทั่วกระเป๋าเดินทางทั้งภายใน และภายนอก ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดออกให้แห้ง หรืออีกวิธียอดนิยมก็คือการใช้กากกาแฟ ใส่ลงในถุงผ้าหรือ ปิดปากถุงให้สนิท แล้วใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทางทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน ปล่อยให้กากกาแฟทำหน้าที่ดูดซับกลิ่นไป
หากกลิ่นยังไม่หายไป การใช้ถ่านไม้ก็น่าจะเป็นวิธีสุดท้ายที่คุณควรลองทำดู โดยนำถ่านไม้ไปใส่ในถุงผ้าเหมือนเดิม และทิ้งไว้ในกระเป๋าเดินทาง 2-3 จากนั้นก็รอผลลัพธ์ว่าได้ผลหรือไม่
หากวิธีดังกล่าวได้ผล คุณก็จะได้กระเป๋าเดินทางใบเก่าที่เหมือนได้ใบใหม่ ทั้งในเรื่องของความสะอาด รอยขีดข่วน จนไปถึงเรื่องกลิ่นที่หายวับไปกับตา แต่ถ้าวิธีดังกล่าวไม่ได้ผล Baggage Luggage ขอเป็นหนึ่งในตัวเลือกในการเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางใบโปรดของคุณ เรามีกระเป๋าเดินทางที่ถูก และดี การันตีด้วยยอดขาย และยอดรีวิวถล่มทลาย เพราะกระเป๋าของเราประณีตในการดีไซน์ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ และราคาไม่แพง ไม่ต้องห่วงเรื่องกระเป๋าพังง่าย เราพร้อมรับประกันสินค้ายาวนานสูงสุดถึง 3 ปี!
สนใจ กระเป๋าเดินทาง ติดต่อเรา