เช็คก่อนบิน ของที่เอาขึ้นเครื่องได้ และ ของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน เด็ดขาด!

Last updated: 4 ธ.ค. 2567  |  1586 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน

ใกล้เข้าเทศกาลวันหยุดยาว หลายคนก็คงเตรียมทริปสุดฟินกันไว้แล้ว ไม่ว่าจะบินกลับบ้าน บินไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือบินไปเที่ยวยาว ๆ ที่ต่างประเทศ สิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้ก่อนจะบินนั่นก็คือ การเช็คลิสต์ก่อนจัดกระเป๋า แน่นอนว่าการโดยสารโดยเครื่องบินก็มีทั้งของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน และ ของที่เอาขึ้นเครื่องได้ 


การเช็คลิสต์ก่อนบินเป็นขั้นตอนที่ช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในขั้นตอนการตรวจกระเป๋าเดินทาง เพราะหากตรวจเจอของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน คุณจะต้องถูกเรียกตรวจสัมภาระเพิ่มเติม และสิ่งนั้นอาจถูกยึดไปได้  

มาดูกันว่า อะไรที่เอาขึ้นเครื่องได้และอะไรที่ห้ามนำขึ้นเครื่องเด็ดขาด!

 

ของที่เอาขึ้นเครื่องได้

 

กระเป๋าเดินทาง ( Carry on baggage )

แต่ละสายการบิน แต่ละระดับบริการก็จะมีกฎเกณฑ์ที่ต่างกัน แต่โดยทั่วไปแล้วสายการบินส่วนใหญ่จะมีข้อกำหนดกระเป๋า Carry-on ที่เหมาะสมในการเก็บในช่องเก็บของบนเครื่อง ดังนี้

ขนาด : กระเป๋าเดินทางขนาด ไม่เกิน 20 นิ้ว หรือไม่เกิน 56 x 45 x 25 ซม. (วัดรวมล้อและหูหิ้ว)
น้ำหนัก : 7-10 กก. สำหรับสายการบินส่วนใหญ่ในคลาส Economy

 

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 

โดยทั่วไปแล้วทุกสายการบินสามารถนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขึ้นไปบนเครื่องได้ แต่ก็จะมีข้อกำหนดหลัก ๆ ที่คุณต้องรู้ในการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ บนเครื่องอยู่เล็กน้อย เช่น

  • โทรศัพท์มือถือ / แท็บเล็ต - ควรเปิด Airplane Mode ในระหว่างที่อยู่บนเครื่อง
  • คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก (Laptops) - ควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนขึ้นเครื่องบิน และเปิด Airplane Mode ระหว่างบิน
  • กล้องถ่ายรูป กล้องวิดีโอ - สามารถนำขึ้นเครื่องได้ รวมถึงกล้อง GoPro และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
  • หูฟัง Bluetooth - ต้องปิดการเชื่อมต่อ Bluetooth ขณะใช้โหมดเครื่องบิน
  • Power Bank - ต้องนำใส่กระเป๋าถือขึ้นเครื่องเท่านั้น โดยขนาดความจุไฟฟ้าต้องไม่เกิน 32,000 mAh.

 

ของเหลว 

ในที่นี้รวมถึง สกินแคร์ เครื่องสำอางต่าง ๆ เช่น น้ำหอม ครีม เจลแอลกอฮอล์ ลิป ออยด์ใส่ผม สเปรย์น้ำแร่ น้ำตาเทียม ฯลฯ หลายคนคงจะมีคำถามว่านำของเหลวขึ้นเครื่องได้เท่าไหร่ ? คำตอบก็คือ ของเหลวเหล่านั้นจะต้องมีขนาดไม่เกิน 100 มิลลิลิตร และต้องบรรจุอยู่ในภาชนะที่ปิดสนิท หรือใส่ถุงซิปล็อกแยกไว้อยู่ในกระเป๋าที่นำติดตัวหรือกระเป๋าเดินทาง Carry on  

 

ของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน

 

ทุกสายการบินย่อมมีข้อกำหนดและกฎระเบียบที่ชัดเจนเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของผู้โดยสารทุกเที่ยวอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับของที่อาจเป็นอันตรายหรือก่อให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัย ทุกสนามบินจึงมีการระบุของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินเอาไว้ 

 

อาวุธ และวัตถุมีคม

สายการบินทุกแห่งไม่อนุญาตให้นำอาวุธและสิ่งของที่คล้ายอาวุธขึ้นเครื่องบินโดยเด็ดขาด สำหรับวัตถุมีคมบางประเภทจะสามารถพกใส่กระเป๋าโหลดใต้เครื่องได้ แต่ก็ต้องผ่านเครื่องสแกนของทางสนามบินอยู่ดี เช่น คัตเตอร์ กรรไกร มีดโกนหนวด เครื่องมือช่าง 

 

วัตถุระเบิด

ข้อนี้รวมถึงสารประกอบที่สามารถเกิดการระเบิดหรือจุดติดไฟได้ด้วย เช่น ดอกไม้ไฟ พลุ ประทัด

 

สารเคมีอันตราย

สิ่งของบางอย่างอาจเป็นสารพิษอันตราย ซึ่งอาจก่อให้เกิดการเหตุอันตราย แพ้หรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้โดยสารและลูกเรือได้ เช่น สารเคมีไวไฟ ก๊าซพิษ น้ำกรด ยาฆ่าแมลง 

 

สิ่งของไวไฟ

สิ่งของที่ติดไฟง่าย อาจทำให้เกิดอันตราย หรือเกิดอุบัติเหตุในระหว่างการบินได้ ของที่มีคุณสมบัติไวไฟ ตัวอย่างเช่น ไฟแช็ค น้ำมัน แอลกอฮอล์ เชื้อเพลิงสำรอง 

 

 

เช็คให้มั่นใจก่อนบิน

 

ตรวจสอบข้อมูลจากสายการบินให้ดี

อย่างที่บอกไปว่าแต่ละสายการบินจะมีข้อกำหนด กฎระเบียบที่แตกต่างกันออกไป ก่อนที่จะเริ่มจัดกระเป๋า คุณควรรีเช็คข้อมูลเกี่ยวกับของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน และ ของที่เอาขึ้นเครื่องได้กับสายการบินที่คุณกำลังจะเดินทางด้วย เพื่อให้สามารถเตรียมตัวได้ถูกต้อง ไม่เกิดปัญหา

 

จัดกระเป๋าเดินทางให้เรียบร้อย

เมื่อรู้แล้วว่าสิ่งไหนเอาขึ้นเครื่องได้ ก็จัดแยกสิ่งของออกจากกระเป๋าที่ต้องโหลดใต้เครื่องบิน เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการผ่านจุดตรวจภายในสนามบิน

หากใครที่กำลังตามหากระเป๋าเดินทางใบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นใบเล็ก กระเป๋าเดินทาง Carry on ที่นำขึ้นเครื่องก็ได้หรือจะใบใหญ่ จุของได้เยอะ ที่ Baggage Luggage เรามีกระเป๋าเดินทางหลากหลายขนาดและรูปแบบให้คุณได้เลือก แวะเข้ามาดูได้เลยว่าใบไหนที่ตอบโจทย์สไตล์คุณมากที่สุด! 

 

อ่านบทความ : วิธีจัดกระเป๋าเดินทางให้เบา ประหยัดพื้นที่ จุของได้เยอะกว่าเดิม

 

เตรียมเอกสารให้พร้อม 

สิ่งสำคัญที่สุดในการเดินทางก็คือ ตั๋วเครื่องบิน หนังสือเดินทาง(พาสปอร์ต) หรือเอกสารวีซ่า อย่าลืมพกไปให้ครบถ้วนด้วยล่ะ

 

มาถึงสนามบินก่อนเวลา

สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเช็คอินได้โดยไม่เร่งรีบ มีเวลาเหลือในการผ่านขั้นตอนต่าง ๆ และการแก้ปัญหาสุดวิสัยที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยปกติแล้วเที่ยวบินภายในประเทศควรมาก่อน 2 ชั่วโมงและเที่ยวบินระหว่างประเทศควรมาก่อนเวลา 3 ชั่วโมง

 

เพียงเท่านี้เราก็รู้แล้วว่าควรจัดกระเป๋าเตรียมของอย่างไรให้ปลอดภัยและสามารถนำสัมภาระทุกชิ้นที่เตรียมไว้ผ่านด่านตรวจสแกนไปได้อย่างปลอดภัย จากนั้นก็เตรียมถือพาสปอร์ตแล้วไปเดินทางกันเลย!

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้